วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อยากทำงาน อยากทำงาน อยากทำงาน

งาน งาน งาน

         แรงบันดาลใจมีหลายอย่างมารวมกัน ปกติแล้วจะมีทั้งความกลัวหรือความปรารถนาอย่างแรงกล้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การต่อสู้ของแรงบันดาลใจเป็นเรื่องที่คุณบอกตัวเองในหัวว่า “ฉันคิดว่าฉันทำได้” “ฉันคิดว่าฉันยังทำได้” และ “ฉันกำลังทำมันอยู่!” และจากความคิดพวกนี้ เรากำลังสร้างสามสิ่ง คือ พัฒนาความมั่นใจ มีเป้าหมายอยู่ และดำรงอยู่ในทิศทางนั้น เอาล่ะได้เวลาเริ่มแล้ว!
        ตื่นตัวอยู่ตลอด. สิ่งต่างๆ สูญเสียความแปลกใหม่ทันทีที่พวกเราเริ่มคุ้นเคยกับมัน เมื่อคุณเดินผ่านโบสถ์ซิสทีนในนครวาติกันหลายๆ รอบ คุณจะไม่สังเกตเห็นโบสถ์นั้นอีกต่อไป ถ้าคุณลงมือทำเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้มาสักพัก มีความเสี่ยงที่คุณจะรู้สึกเบื่อขึ้นมา ไม่นะ! คุณยอมให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่ได้ คุณต้องเปลี่ยนมันและคอยกระตุ้นประสาทการรับรู้ของคุณทดลองวิธีใหม่ๆ ให้เป้าหมายของคุณลุล่วง ถ้าคุณกำลังลดน้ำหนัก เลือกพฤติกรรมใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ ถ้าคุณกำลังหารายได้ ลองกลยุทธ์ทางธุรกิจแบบใหม่ หรือใช้ระบบจัดการกับต้นทุนแบบใหม่ คอยตื่นตัวอยู่เสมอคิดภาพในหัวขอคุณ คอยเตือนตัวเองอยู่เนืองๆ ว่ามีอะไรบ้างที่เป็นทางที่ดีต่อคุณให้อยู่ในเกมนี้ เปลี่ยนหน้าจอคอมของคุณให้เป็นชุดภาพสร้างแรงบันดาลใจ เขียนโน้ตเล็กๆ ถึงตัวเองแปะไว้ในที่ที่คุณคาดไม่ถึง เตือนตัวเองว่า “โอ้ใช่ ฉันกำลังทำสิ่งนี้ และฉันใกล้จะทำสำเร็จแล้ว!” แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยล่ะ
        ขัดเกลาแผนการ.คุณมีเป้าหมายวางไว้และคุณรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมายนั้น...แต่เมื่อคุณดำเนินตามแผนไปสู่เส้นทางแห่งดวงดาวคุณอาจพบว่าบางสิ่งที่คุณเคยคิดว่าจะช่วยให้คุณถึงฝั่งฝันนั้นไม่เป็นไปตามที่คุณ หรืออย่างน้อยที่สุด พวกนั้นใช้เวลานานเกินความคุ้มค่าที่จะลงแรงไป กับมันถึงเวลาที่ต้องวิเคราะห์ผลลัพธ์ และปรับเปลี่ยนบางอย่างเล็กน้อย
        กิจกรรมที่คุณทำมาตลอดเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายของคุณ ทีนี้ ดูว่าอันไหนที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด? อันไหนที่มีความตั้งใจที่ดีแต่ไม่ส่งผลจริงจัง? เมื่อคุณสรุปได้ว่าอันไหนดีที่สุดและอันไหนไม่ใช่ พุ่งความสนใจส่วนใหญ่ของคุณไปที่กิจกรรมที่ให้ผลตอบแทนสูง เปลี่ยน “พวกนั้น” ให้ดียิ่งขึ้น แทนที่จะมีงานน่ากลัวอยู่หนึ่งงาน ทีนี้ คุณจะมีหลายงานที่คุณจัดการกับมันได้
        อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่. คุณจะพบขั้นตอนใกล้เคียงกันนี้ในบทความของ วิกิฮาว จำนวนมหาศาล (และจากสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนของคุณด้วย): อย่าปล่อยให้ความล้มเหลวเล็กๆ ฉุดคุณไว้ สิ่งเหล่านี้หลีกเลี่ยงไม่ได้และจะเกิดขึ้นแน่ แม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็ยังเคยล้มเหลว อันที่จริง พวกเขาอาจมีความล้มเหลว “มากกว่า” จำได้ไหม เอดิสันไม่เคยล้มเหลว เขาแค่พบหนึ่งหมื่นวิธีที่ไม่ประสบความสำเร็จแค่นั้นเอง
       ง่ายเกินไปที่จะล้มเหลวครั้งหนึ่งและปล่อยให้ตัวเองอยู่ในหลุมแห่งความเศร้า นี่ทำให้คุณไม่ได้กลับมาคุมบังเหียนล่ะหนึ่ง ทำไงได้ที่คุณทำไม่ได้ เมื่อคุณเจอกับความล้มเหลว รับรู้ว่านี่คือความล้มเหลว ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ สัก 15 นาที จากนั้นหยุด พรุ่งนี้คือวันใหม่ ความล้มเหลวของวันนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับอนาคตของวันพรุ่งนี้
ปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี

อยากทำงาน อยากทำงาน (2)

งาน(พิเศษ)

         น้ำมีเหลือครึ่งแก้ว ไม่ใช่พร่องไปครึ่งแก้ว. เมื่อเราคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เราอยากได้ ส่วนสำคัญก็คือการรู้ว่า เรายังไม่ได้มา นี่อาจกลายเป็นความรู้สึกแง่ลบที่ปั่นป่วน นำเราสู่เส้นทางความสงสารตัวเอง รู้สึกเฉื่อยชา และจมอยู่กับความเศร้าในที่สุด อย่าได้เดินไปทางนั้น! คิดถึงสิ่งที่คุณ “มี” อยู่ สิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ ต่อเมื่อคุณคิดแบบนี้คุณจะทำให้สิ่งที่คุณมีอยู่นั้นดียิ่งขึ้นเขียนรายการสิบอย่างที่คุณมีและรู้สึกขอบคุณสิ่งเหล่านั้น อ่านรายการพวกนี้ทุกวัน (และใส่อันใหม่เข้าไปเวลาที่คุณคิดออกเพิ่ม) การโฟกัสกับสิ่งที่คุณทำ สร้าง และเป็นอยู่ นั้นจะสร้างความมั่นใจในตัวคุณ เมื่อคุณมีทัศนคติที่ว่า “ได้สิ ฉันทำได้!” (ย้อนกลับไปมองความสำเร็จในอดีตของคุณพิสูจน์ได้ว่าคุณก็ทำได้!) นี่จะทำให้เป้าหมายดูสำเร็จได้ง่ายดายขึ้นกว่าเดิมนิยามเป้าหมายและแผนการของคุณที่ทำให้คุณบรรลุเป้าหมาย. นี่ถึงเวลาที่เราให้คุณคิดในแง่บวก คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังเริ่มมองโลกในแง่บวก
      แทนที่จะคิดว่า “ฉันไม่อยากเป็นคนเร่ร่อน และใช้ชีวิตอยู่อย่างยาจก” ให้คุณคิดว่า “ฉันอยากจะมีความมั่นคงทางการเงิน” ยอดเยี่ยมเลย ทีนี้ คุณจะวางแผนให้บรรลุเป้าหมายอย่างไรล่ะ?ก่อนอื่น ลองดูตัวอย่างนี้ สมมติคุณเขียนแผนรายรับขึ้นมา คุณอาจต้องวางแผนเรื่องงบประมาณ คุณอาจต้องกลับไปเรียนต่อ หรือขยายธุรกิจของคุณ คุณมีขั้นตอนที่ชัดเจนไปยังเป้าหมาย แต่ไม่ว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับอะไรก็ตาม ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคือลดน้ำหนัก เรียนดีที่โรงเรียน หรือแค่ทำตามความฝัน คุณจำเป็นต้องคิดให้ออกว่าคุณต้องการอะไรและคุณวางแผนจะทำสิ่งเหล่านั้นด้วยวิธีไหน ถ้าคุณต้องการสิ่งนั้นจริง คุณจะคิดออกได้ไม่ยาก เลิกคิดจากความกลัว.
      พวกเรารู้สึกผิดเวลาคิดในแง่ลบแทนที่เราจะคิดเพื่อยืนยัน เรายุ่งกับการ “ไม่” ต้องการบางอย่าง นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่จะไม่มีการลงมือทำถ้าเรายัง “ไม่” ต้องการสิ่งเหล่านั้น คุณไม่สามารถตัดสินใจทำบางอย่างเป็นเพราะคุณ “ไม่” อยากทำอีกอย่าง นั่นไม่ใช่วิถีที่ควรจะเป็น การคิดแบบนั้นก็แค่ทำให้คุณอยู่บนโซฟาและไม่ลงมือทำอะไรเลย ความกลัวเป็นอันตรายด้วยเหตุผลสองข้อ 1) ความกลัวจะทำให้คุณไม่มีแรงบันดาลใจ เป้าหมายในแง่ลบไม่ใช่สิ่งที่คุณจะลงมือทำให้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้น 2) เป้าหมายลบจะดูดพลังงานจากคุณ มันแย่นะที่ต้องอยู่บนความหวาดกลัว เพราะนั่นจะทำให้คุณอยู่ในภาวะสับสนงงงวย คุณจะไม่มีวันได้แรงบันดาลใจ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลย
 
ปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี 

เคล็ดลับ กับความจำ

เคล็ดลับ
  • คิดถึงเวลาที่คุณหาแรงบันดาลใจให้ตัวเองและเห็นประโยชน์ของมัน
  • โฟกัสกับตัวเองและความสามารถของคุณ: การจัดการกับเวลาและพื้นที่ ถ้าคุณสามารถจัดการกับเวลาและทำงานที่มีเวลาให้คุณสร้างแรงบันดาลใจและทำสิ่งที่จะบรรลุเป้าหมายของคุณได้ คุณจะมีความคืบหน้าบ้าง
  • ใช้อินเทอร์เน็ตหาคำตอบของปัญหาของคุณ ค้นหาผ่านกูเกิ้ลคีย์คำหลัก (main word) และอ่านมากที่สุดเท่าที่คุณจะอ่านได้ การอ่านบทความจะให้ความคิดและพลังงานที่จะแก้ปัญหาสำหรับคุณ
  • รู้เหตุผลของคุณ เขียนว่าทำไมคุณต้องทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ นี่จะทำให้คุณมีพลังอยู่
  • กำจัดสิ่งรบกวนที่อาจขัดขวางแรงบันดาลใจของคุณ
  • อย่าใช้อินเทอร์เน็ตในตอนเช้า นี่อาจทำให้คุณวนเวียนดูเว็บไซต์ไล่ทีละอัน นี่จะลดความกระตือรือร้นของคุณ ดังนั้น ทำสิ่งที่สำคัญที่สุดอันแรกก่อนสำหรับวันนั้นทันทีหลังคุณตื่นนอน ถ้าคุณทำงานออนไลน์ สำคัญที่จะเริ่มงานที่สำคัญที่สุดทันที แทนที่จะเล่นอินเทอร์เน็ตหรืออ่านข่าว อย่าทำอย่างนั้น เริ่มลงมือทำงานสำคัญก่อนทันที
  • สร้างกิจวัตร เขียน “รายการในแต่ละวัน” ของทุกสิ่งที่คุณต้องทำหลังคุณตื่นนอน (พร้อมระบุเวลา) ทำตามแผนนี้อย่างน้อยสองสามสัปดาห์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและทิศทางที่ดี
       ทำผังความก้าวหน้าของคุณ. มนุษย์ปุถุชนมักต้องการสิ่งที่จับต้องได้เป็นธรรมดา คุณรู้ว่ามีหายคนที่เกลียดศิลปะแบบนามธรรมใช่ไหม? มันยากที่จะเข้าใจได้ อังนั้น เมื่อคุณอยู่บนเส้นทางไปสู่ความยิ่งใหญ่ ทำสิ่งต่างๆ ให้จับต้องได้เท่าที่จะเป็นไปได้ รักษาความก้าวหน้าขอคุณไว้เพื่อที่คุณจะได้นั่งลงและมองเห็นสิ่งยอดเยี่ยมต่างๆ ที่คุณทำ ทีนี้ “นั่นล่ะ”เป็นแรงบันดาลใจ! คอยจดบันทึกงานที่คุณทำ บันทึกหน้าที่ของคุณทุกๆ วัน (ไม่ว่าคุณจะทำเสร็จหรือไม่ก็ตาม) และเช็คอินเพื่อดูว่าคุณไปถึงเป้าหมายย่อยหรือยัง พกบันทึกนี้ติดตัวคุณในทุกๆ ที่ที่คุณไป!
   
ปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี

ลมหายใจ


ลมหายใจ
เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้ายาว,
เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกยาว;
เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจเข้าสั้น,
เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่าเราหายใจออกสั้น;
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง (สพฺพกายปฏิสํเวที) หายใจเข้า”,
ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งกายทั้งปวง หายใจออก”;
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้รำงับอยู่ (ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ) หายใจเข้า”,
ว่า “เราเป็นผู้ทำกายสังขารให้รำงับอยู่ หายใจออก”;

เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งปีติ (ปีติปฏิสํเวที) หายใจเข้า”,
ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งปีติ หายใจออก”;
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งสุข (สุขปฏิสํเวที) หายใจเข้า”,
ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งสุข หายใจออก”;
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิตตสังขาร (จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที) หายใจเข้า”,
ว่า “เราเป็นผู้รู้พร้อมเฉพาะซึ่งจิตตสังขาร หายใจออก”;
เธอย่อมทำการฝึกหัดศึกษาว่า “เราเป็นผู้ทำจิตตสังขารให้รำงับอยู่ (ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ) หายใจเข้า”,
ว่า “เราเป็นผู้ทำจิตตสังขารให้รำงับอยู่ หายใจออก”;

ปลงซะ

ปลงซะ
เพราะอาศัยตัณหา (ความอยาก) จึงมี การแสวงหา (ปริเยสนา);
เพราะอาศัยการแสวงหา จึงมี การได้ (ลาโภ);
เพราะอาศัยการได้ จึงมี ความปลงใจรัก (วินิจฺฉโย);
เพราะอาศัยความปลงใจรัก จึงมี ความกำหนัดด้วยความพอใจ (ฉนฺทราโค);
เพราะอาศัยความกำหนัดด้วยความพอใจ จึงมี ความสยบมัวเมา (อชฺโฌสานํ);
เพราะอาศัยความสยบมัวเมา จึงมี ความจับอกจับใจ (ปริคฺคโห);
เพราะอาศัยความจับอกจับใจ จึงมี ความตระหนี่ (มจฺฉริยํ);
เพราะอาศัยความตระหนี่ จึงมี การหวงกั้น (อารกฺโข);
เพราะอาศัยการหวงกั้น จึงมี เรื่องราวอันเกิดจากการหวงกั้น (อารกฺขาธิกรณํ);
กล่าวคือ การใช้อาวุธไม่มีคม การใช้อาวุธมีคม
การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท
การกล่าวคำหยาบว่า “มึง ! มึง !”
การพูดคำส่อเสียด
และการพูดเท็จทั้งหลาย :
ธรรมอันเป็นบาปอกุศลเป็นอเนก ย่อมเกิดขึ้นพร้อม
ด้วยอาการอย่างนี้.

สิ้นความอยาก ก็สิ้นทุกข์

สิ้นความอยาก ก็สิ้นทุกข์
นิสฺสิตสฺส จลิตํ
ความหวั่นไหว ย่อมมี แก่บุคคลผู้อันตัณหาและทิฏฐิอาศัยแล้ว
อนิสฺสิตสฺส จลิตํ นตฺถิ;
ความหวั่นไหว ย่อมไม่มี แก่บุคคลผู้อันตัณหาและทิฏฐิไม่อาศัยแล้ว
จลิเต อสติ ปสฺสทฺธิ;
เมื่อความหวั่นไหว ไม่มี, ปัสสัทธิ ย่อมมี
ปสฺสทฺธิยา สติ นติ น โหติ;
เมื่อปัสสัทธิ มี, ความน้อมไป ย่อมไม่มี
นติยา อสติ อาคติคติ น โหติ;
เมื่อความน้อมไป ไม่มี, การไปและการมา ย่อมไม่มี
อาคติคติยา อสติ จุตูปปาโต น โหติ;
เมื่อการไปการมา ไม่มี, การเคลื่อนและการบังเกิด ย่อมไม่มี
จุตูปปาเต อสติ เนวิธ น หุรํ น อุภยมนฺตเร:
เมื่อการเคลื่อนและการบังเกิดไม่มี, อะไรๆ ก็ไม่มีในโลกนี้
ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างแห่งโลกทั้งสอง

เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺส
นั่นแหละ คือที่สุดแห่งทุกข์ละ.

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

บ้านเรานะ

พอเพียง
    การดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต    จะมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อมอาจเป็นความสัมพันธ์ทางบวกหรือทางลบ จะเห็นได้ว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยลำพังโดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งแวดล้อม ดังนั้นถ้าสิ่งแวดล้อมเกิดการเปลี่ยนแปลงย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยในสิ่งแวดล้อมนั้นด้วย  เช่น  การดำรงชีวิตของพืช  สัตว์ และสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอื่นๆ
     การพึ่งพาอาศัยกันและมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต เช่น แร่ธาตุ แสงแดด มีการใช้พลังงานและแลกเปลี่ยนสารอาหารซึ่งกันและกันเป็นวัฏจักรที่ดำเนินไปเป็นระบบภายใต้ความสมดุลของธรรมชาติ ดังนั้นหากระบบมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นและส่งผลกระทบเกี่ยวเนื่องไปทั้งระบบ และทำให้เกิดปัญหากับการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตอื่นๆระหว่างสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกัน
      เนื่องจากมีความต้องการปัจจัยพื้นฐานเหมือนกันแต่มีจำนวนจำกัด หรือมีไม่เพียงพอที่จะทำให้สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้เป็นปกติ  เช่น  การแย่งชิงน้ำ  อาหาร  แสงสว่าง  ที่อยู่อาศัย   เช่น การที่พืชสองชนิดขึ้นอยู่ใกล้เคียงกันจะแก่งแย่งกันครอบครองพื้นที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร  บางครั้งฝ่ายที่อ่อนแอกว่าจะถูกแก่งแย่งจนตายไปธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง  ให้เสื่อมโทรมก่อให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่มนุษย์  เนื่องจากเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วเป็นการยากที่จะทำให้กลับมามีสภาพดังเดิม
      การเปลี่ยนแปลงอาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อมนุษย์  เช่น  การทำลายป่า  การถมคลอง  หนอง  บึง  ทำให้เกิดความแห้งแล้ง  น้ำท่วม  น้ำป่าไหลหลากอย่างรวดเร็ว  ดังนั้นการรักษาระบบนิเวศให้คงสภาพตามธรรมชาติ  หรือก่อให้เกิดความ    สมดุลอย่างเสมอจะอำนวยประโยชน์ให้แก่มนุษย์อย่างมากมายแนวความคิดในเรื่องของนิเวศพัฒนาจึงเกิดขึ้น
    นายปราโมทย์ โชติช่วง  ณ ราชบุรี
     

ธรรมชาติ

ทุ่งนา
      ท้องทุ่งนา ความสมดุลทางธรรมชาติ เป็นภาวะการณ์ทางธรรมชาติของระบบนิเวศใดก็ตามที่ระบบความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบเป็นไปอย่างสมบูรณ์  หมายความว่า  บรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในระบบนิเวศจะต้องทำหน้าที่ครบถ้วน  3  กลุ่ม  คือ  มีทั้งผู้ผลิต  ผู้บริโภคและผู้ย่อยสลาย  ในส่วนของสิ่งไม่มีชีวิตเองก็ทำหน้าที่สนับสนุนอย่างต่อเนื่องไม่ขาดหาย ความสมดุลทางธรรมชาติมีความแตกต่างกันไปตามความแตกต่างของระบบนิเวศ  ซึ่งในธรรมชาติระบบนิเวศจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นไปโดยธรรมชาติหรือโดยมนุษย์ก็ได้  ลักษณะการเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้  2  แบบ  คือ  แบบกระทันหันและแบบค่อยเป็นค่อยไป การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศโดยธรรมชาติแบบกระทันหัน ทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุลและมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิต  ทำให้ตายหรือสูญพันธุ์ไปได้ง่าย  เช่น  การเกิดไฟไหม้ป่า  อุทกภัย  การเกิดโรคระบาด  ฯลฯ 
        สำหรับการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปตามธรรมชาติ  เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ ก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งสิ่งมีชีวิตอื่นน้อยมาก  แต่เมื่อระยะเวลานานเข้าการเปลี่ยนแปลงจะมีมากขึ้น  จะเกิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอย่างเด่นชัดขึ้น  เช่น  ทุ่งนา หรือไร่ร้าง  จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นทุ่งหญ้าและพืชพวกไม้พุ่มในเวลาต่อมา จนในที่สุดหากไม่มีสิ่งแวดล้อมภายนอกมารบกวนก็จะกลายเป็นป่าที่สมบูรณ์ได้  ดังนั้นสิ่งมีชีวิตจะต้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้
                การสูญเสียความสมดุลในระบบนิเวศหากเกิดโดยธรรมชาติ  ระบบนิเวศจะช่วยแก้ไขได้ด้วยตัวเอง  แต่ถ้าเกิดจากมนุษย์จะแก้ไขได้ยากมาก  เมื่อมนุษย์เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการพัฒนาวิถีชีวิตมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี  ทำให้ความเป็นอยู่สุขสบายมากขึ้นมนุษย์จึงได้ชื่อว่า  เป็นตัวการทำลายระบบนิเวศมากที่สุด

บ้าน

บ้าน
       บ้าน คือ สิ่งที่ไม่มีชีวิต แต่มันคือชีวิต...คงจะไม่เกินเลยไปนะ หากจะกล่าวเช่นนี้...บ้านจะใหญ่ หรือ บ้านจะเล็ก ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับปริมาณของความสุขที่อยู่ข้างใน หรือจะพูดเปรียบเปรยไปทำนองว่า ปริมาณของความสุขมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ขนาดของบ้าน ...มีบางอย่างที่ผมจำได้ไม่เคยลืม คือ เสียงโขลกน้ำพริกกะปิแบบไทยๆของแม่ เสียงดัง ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก '''''ในเย็นวันนั้นสมัยที่ผมเองยังเป็นเด็กตัวเล็กๆกำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษา   กลิ่นหอมของมะนาวที่โชยมาพอได้กลิ่น แม่ค่อยๆบรรจงบีบมันลงไปในครก ตามด้วยน้ำปลาตามสูตรการทำของแม่ รสชาดอร่อยถูกใจทุกคนในครอบครัวยิ่งนัก มื้อไหนก็ตามที่ได้กินน้ำพริกปลาทู มีผักบุ้งลวก มะเขือ แตงกวา เป็นเครื่องเคียงด้วยแล้วล่ะก็ ผมจะกินข้าวจนพุงกางอย่างไม่ต้องสงสัย เลยได้ฉายาจากแม่ว่า เจ๊น้ำพริก ถ้าจะพูดว่า ในความคิดของผม น้ำพริกกะปิฝีมือของแม่ผม "อร่อยที่สุดในโลก" ก็คงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดสำหรับผมอยู่ดีนั่นแหละ

หลายครั้งที่ชีวิตของผม ประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือแม้แต่เรื่องความรัก บ้านของผมคือสถานที่ๆเดียวที่ผมได้กำลังใจแบบไร้สารเจือปน มันเป็นคำพูด ที่แสดงถึงความปรารถนาดีจริงๆ ไม่ว่าจะออกมาจากปากของคนที่เป็น พ่อ แม่ พี่ หรือ น้อง หากความเป็นจริงแล้วคำพูดเหล่านั้นจะไม่ได้ทำให้ปัญหาต่างๆคลี่คลายลงเลยก็ตาม  ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า คำพูดเหล่านั้น มันทำให้ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นและสร้างความสุขให้ผมอย่างประหลาด หรืออาจจะเป็นเพราะบ้านคือสถานที่ๆเดียวที่ผมไม่ต้องระแวงระวังว่าจะมีภัยใดๆเคลือบแฝงมากับคำพูดเหล่านั้นก็เป็นไปได้

เรื่องเก่าบางเรื่องของผมที่หยิบยกมาเล่านี้ ก็เพราะเรื่องราวเรื่องนั้นมันเป็นความทรงจำที่สุดวิเศษ ผมคิดว่าไม่เฉพาะแต่ผมเท่านั้น ที่มีความทรงจำดีๆเช่นนี้กับคนในบ้าน
แม้ว่าบ้านที่ผม หรือที่คุณๆจะอาศัยอยู่อาจเป็นแค่เพียงหลังเล็กๆ บางบ้านอาจจะเป็นแค่กระท่อมน้อยๆ หลังคามุงจากด้วยซ้ำไป แต่บ้านก็ยังเป็นบ้านที่สามารถสร้างความสุขให้กับเราเหมือนลอยอยู่ในวิมานชั้นฟ้า
 
นายปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี

แสงดาว สาดแสงเดือน

แสงดาว สาดแสงเดือน
 พร่างพรายแสง ดวงดาวน้อยสกาว
ส่องฟากฟ้า เด่นพราวไกลแสนไกล
ดั่งโคมทอง ส่องเรืองรุ้งในหทัย
เหมือนธงชัย ส่องนำจากห้วงทุกข์ทน
พายุฟ้า ครืนข่มคุกคาม
เดือนลับยาม แผ่นดินมืดมน
ดาวศรัทธา ยังส่องแสงเบื้องบน
ปลุกหัวใจ ปลุกคนอยู่มิวาย
ขอเยาะเย้ย ทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
 
คนยังคง ยืนเด่นโดยท้าทาย
แม้นผืนฟ้า มืดดับเดือนลับมลาย
ดาวยังพราย ศรัทธาเย้ยฟ้าดิน
ดาวยังพราย อยู่จนฟ้ารุ่งราง

 
ขอขอบคุณ
จิตร ภูมิศักดิ์

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อยากมีงานทำบ้างครับ

อยากมีงานทำบ้างครับ

น้อยนิด แต่ยิ่งใหญ่มหาศาล

ใช่นะ
  "น้อยนิด...แต่ยิ่งใหญ่มหาศาล" อย่างแท้จริง

      ในแง่วัตถุ คนที่นี่อาจจะไม่ได้มีมาก แต่เขาก็มีเพียงพอ แต่ในแง่ที่ไม่ใช่วัตถุแล้ว คนที่นี่เขามีมากมายมหาศาลจริง ๆ เขามีลำธารให้เล่นแทนสระน้ำ มีป่าเขาแสนสวยสุดลูกหูลูกตา มีเสียงแมลงและเสียงน้ำไหลให้ได้ยินทุกคืน มีอากาศบริสุทธิ์พร้อมกลิ่นธรรมชาติที่พวกเราคนเมืองไม่มีโอกาสได้สูดดม สิ่งที่เรียบง่ายแบบนี้ บางทีมันกลับกลายเป็นอะไรที่หายากสำหรับคนที่อยู่ในเมือง  ผู้คนในเมืองใหญ่มีความต้องการต่างๆ มากมายในชีวิตมากกว่าผู้คนในเมืองเล็ก ทั้งบ้าน รถ เสื้อผ้า มือถือ เครื่องประดับ ฯลฯ
     ในขณะที่นี่เขาอาจจะไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพรั่งพร้อม รถยนต์คันงามๆแพงลิ่ว สมาทโฟนราคาแพงๆแสนแพง ห้างสรรพสินค้าที่ไว้เดินช้อปหรูหรา กาแฟแก้วแพงๆที่ต้องแย่งกันซื้อ (แต่เวลาซื้อของบนดอย ต่อราคาจัง) แต่เขาก็มีสิ่งที่ภาคภูมิใจมากเพียงพอ เขาอยู่กับธรรมชาติสิ่งแวดล้อมที่สวยสดงดงาม มีอากาศที่บริสุทธิ์ ใกล้ชิดกับญาติพี่น้อง นอนหลับสบาย กินอิ่มในทุก ๆ วัน
 
นายปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี

หัดวาด

หัดวาด
        เริ่มจากการฝึกหัด หัดวาด หัดเขียน หัดเรียนก่อนจะวาดรูปใดๆให้ได้ดั่งใจปรารถนานั้นควรฝึกพื้นฐานเหล่านี้ก่อนแล้วค่อยวาด ฝึกให้ชำนาญจนสามารถควบคุมมือให้ลากเส้นได้ ลากจนเส้นตรงให้ตรง เฉียงให้เฉียง กลมก็ต้องให้กลมจริงๆ ก่อนที่จะวาดภาพต่อไปถ้าไม่ฝึกพื้นฐานแบบนี้ก่อน อาจทำให้เราหงุดหงิด หงุนหง่าน จนงอแง เมื่อเราไม่สามารถบังคับเส้น หรือกล้ามเนื้อมือให้ได้ดั่งใจได้ปรารถนาเวลาจะลากเส้นตรงดันเบี้ยวเป็นรูปหนอนหนีตายจะหมุนให้กลมเหมือนแสกปั้น กลายเป็นรูปก้อนดินเหนียวร่วงพื้นบิดไปมา
          การพึ่งพาแต่การดราฟจนทำให้ไม่สามารถออกไปสเก็ตภาพที่ไหนได้จะวาดภาพ land scape, sea scape, potrait ที เกร็งจนข้อมือติดขัดเหมือนคอมพิวเตอร์โดนไวรัสร่างกายคล้ายๆถูกสะกดให้นิ่ง อยู่กับที่เหมือนผีจีนที่โดนยันต์แปะหน้าผากให้ยืนสงบอยู่ตรงหน้ากระดาษหรือ ผืนผ้าใบโดยไม่กล้าทำอะไร ในที่สุดเราก็จะเลือกล้มความตั้งใจไปโดยอัตโนมัติ กลายเป็นโดนยึดความมั่นใจไปเหมือนกับการโดนเครื่องกดเงินยึดบัตร เพราะขาดความอดทนกับเราที่ไม่ยอมจำรหัสให้ดี 
        เมื่อท่านได้สังเกตและฝึกฝนการวาดเส้นจนชำนาญ ท่านจะสามารถมองเห็นภาพแสงเงาที่เกิดขึ้นในธรรมชาติได้ง่ายและชัดเจนขึ้น ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ ถ่ายทอดความรู้สึกที่ท่านมีต่อสิ่งที่พบเห็นเบื้องหน้าของท่านออกมาเป็นงานศิลปะ  เรียกได้ว่า  ท่านมีสายตาศิลปะและเป็นศิลปินได้ 
 
              นายปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี  

ทางเดิน


ทางเดิน
           ทางเดินชีวิต ทางชีวิตของแต่ละคนล้วนมีจุดหมายปลายทางทุกๆคน และแต่ละคนย่อมมีจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันไป มีไม่มากนักที่คนเราเกิดมาจะเดินบนเส้นทางเพียงเส้นทางเดียว แล้วทำให้เดินไปได้จนถึงจุดหมายปลายทางที่ตนเองต้องการไป หรือที่เรามักเรียกว่า ประสบความสำเร็จในชีวิต โดยไม่มีอุปสรรคขวากหนามใดๆ หรือไม่เจอแม้กระทั่งหนทางที่คดเคี้ยว  วกวน ใดๆ แต่ก็มีคนอีกบางกลุ่มได้เดินบนเส้นทางที่ราบเรียบ แต่จุดหมายของเส้นทางนั้น มันไม่ใช่จุดหมายที่เราต้องการไปถึง ชีวิตอาจจืดชืดนะ และก็มีอีกไม่น้อยที่คนเราหาทางเดินสู่จุดหมายปลายทางไม่เจอ หรือที่เรียกว่า ทางตันเมื่อเจอทางตัน จงอย่าทำให้ชีวิตเราตันไปด้วย ทางตัน ยังไงยังไงคนเราก็พยายามหาช่องทางอื่นให้เดินไปได้เสมอ ดูอย่างภูเขาสิ ยังมีคนเจาะทะลุเป็นอุโมงค์เพื่อให้รถผ่านไปได้ หรือแม้กระมั่งแม่น้ำสายใหญ่ๆ เขาก็ยังทำสะพานใหญ่โตให้รถข้ามไปได้
        ฉะนั้นจงเลือกทางเดือนใหม่ โดยใช้สติปัญญาเพิ่มมากขึ้นในการเลือกทางเดินนั้นๆ มั่นใจเถอะว่าคนเรามีสติปัญญาที่ล้ำเลิศเพื่อหาทางเดินให้ตัวเองใหม่ได้อย่างแน่นอน และจงจำไว้เสมอว่า การเดินทางบนเส้นทางชีวิตนั้น มีเส้นทางให้เลือกเดินมากมายเสมอ ขอจงอย่าหยุดก้าวเดิน เพราะเมื่อไหร่ที่คุณหยุดเดิน นั้นหมายถึงว่าคุณยอมแพ้ มันเป็นการหยุดกับที่ที่ไม่เกิดประโยชน์อะไร และคุณเองจะไม่เกิดความภาคภูมิใจใดๆเลยในชีวิต เพราะคุณไม่สามารถก้าวเดินสู่จุดหมายปลายทางที่ตนเองตั้งใจไว้ได้ จงเรียกพลังกลับคืนมาแล้วก้าวเดินไปในทิศทางใหม่ที่ทางเดินส่องประกายสว่างมากกว่าเดิม
  นายปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี

จินตนาการ

จิตนาการ
    จินตนาการ คือความสามารถในการสร้างภาพด้วยจิตตามความคิดที่ปรารถนาจะให้เกิดขึ้น เป็นภาพของเหตุการณ์ สิ่งของ สถานที่หรือบุคคลที่ได้เคยเห็น เคยพบหรือเคยไปมาก่อนในอดีต โดยอาศัยสมองหรือจิตใต้สำนึกที่ได้เคยจดจำไว้ มนุษย์เราทุกคนมีความสามารถที่จะสร้างจินตนาการหรือจิตภาพได้ อาจจะต่างกันที่สามารถจะสร้างจินตนาการให้เห็นด้วยตาได้เร็วหรือช้า ได้ชัดเจนหรือได้เพียงพร่ามัวเท่านั้น    การจินตนาการ ถือเป็นความสามารถของผู้ที่มีประสบการอย่างหนึ่ง ที่ได้เคยสะสมภาพเหตุการณ์ สภาวการณ์และสถานการณ์ต่างๆ ที่ตนได้เคยประสบมาตลอดชีวิตจนถึงปัจจุบัน จิตใต้สำนึกได้บันทึกไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความพึงพอใจ ความไม่พอใจ ความเศร้าใจ ความดีใจ ความท้อใจ ความแค้นใจ ความอิจฉาริษยา ความผิดหวัง ความสมหวัง ความล้มเหลว ความสำเร็จ ความทุกข์ใจและความสุขใจ
    เมื่อท่านรู้วิธีสร้างจินตนาการ ท่านสามารถจะเดินท่องเที่ยวไปได้ทั่วโลกโดยปราศจากอุปสรรค รู้สึกว่าตน
เองมีอิสรเสรีภาพอย่างเต็มบริบูรณ์ไม่มีใครผู้ใดจะกีดกั้นและขัดขวางได้ สามรถสร้างจินตนาการให้ประสาทได้สัมผัสกับ รูป รส กลิ่น เสียง เหมือนจริงทุกประการ
     ผู้ได้ที่ได้เรียนรู้หลักการหรือวิธีการสร้างจินตนาการอย่างมีประสิทธิภาพ หรือที่เรียกว่า “สร้างสรรค์ ให้
ชีวิตประสบความสุขความสำเร็จได้ในชีวิตนี้ ไม่ต้องรอชีวิตในอนาคตหรือชาติหน้า” จินตนาการ เป็นพลังอำนาจที่สามารถจะเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษาเล่าเรียน การทำงาน ทำธุรกิจของท่านให้ประสบความสุขและความสำเร็จได้
    ทุกคน จงมีความคิด หรือสร้างจินตนาการในเชิงสร้างสรรค์ สร้างความคิดริเริ่มให้เป็นให้ได้ให้สำเร็จสักหนึ่งเรื่อง ต่อไปเขาจะสามารถสร้างจินตนาการให้เกิดความสุขและความสำเร็จในชีวิตได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ชีวิตของเขาเจริญก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งได้เลย
    ขอให้ท่านที่ได้อ่านบทความเรื่อง “พลังอำนาจแห่งจินตนาการ” จงเริ่มฝึกคิดสร้างจินตนาการ เป้าหมายที่ท่าน
ตั้งไว้หรือกำหนดไว้ ให้ชัดเจน จนรู้สึกสัมผัสได้ เกิดอารมณ์แห่งความชื่นชมยินดี ก็จะเกิดความสมจริงขึ้นได้อย่างแน่นอน
 
 นายปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี
 
 
 
 

ร่ำรวย เงินทอง

เราต้องการแบบนี้ใช่หรือไม่
        นี้แหละที่มนุษย์หลายคนอยากมี และมีความต้องการความร่ำรวยกันทุกคน กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการจริงๆ โดยให้ระบุชัดเจนไปเลยว่าต้องการเงินจำนวนเท่าไหร่  เพราะจำนวนเงินที่อยากได้มีผลต่อจิตใต้สำนึกและสมองของเรา นั้นคือจิตใต้สำนึกจะรับเงินเท่ากับจำนวนที่เราต้องการเมื่อได้รับเงินมาแล้วจะนำไปทำอะไร ต้องนำอะไรหรือสิ่งใดไปแลกมา เข้าใจว่าเงินต้องแลกด้วยอะไรบางสิ่งบางอย่าง
      เพราะของฟรีไม่มีในโลกระบุเวลาที่อยากได้เงินลงไปเลยว่าจะได้เงินเมื่อไหร่  ปล่อยให้เป็นเรื่องของสมอง จิตใต้สำนึกหรืออะไรก็ตามแต่หาวิธีหรือวางแผนการให้ได้เงินมากำหนดแผน ที่จะได้เงินตามที่ต้องการ ลงมือทำอย่างใดอย่างหนึ่งทันที ที่จะได้รับเงินโดยเราไม่จำเป็นต้องความพร้อม แค่ลงเมือทำเพื่อให้บางสิ่งบางอย่างเริ่มปรากฏขึ้นเท่านั้นเขียนทุกอย่างลงบนกระดาษ โดยแต่งประโยคประกอบด้วย จำนวนเงิน ระยะเวลา การแปลกเปลี่ยน วิธีการ แผนงานและขั้นตอนอ่านสิ่งที่เขียนออกมาดังๆ ในเวลาเช้าตื่นนอนและก่อนนอน เพื่อให้มันซึมซับลงไปในระดับจิตใต้สำนึก ซึ่งตามกฎแห่งการดึงดูดแล้ว เราจะดึงดูดมันเข้ามาในชีวิตเรา ซึ่งมันจะเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในชีวิตเรา
      ดังนั้นอยากร่ำรวยเงินทอง ต้องขยันทำงาน และประกอบอาชีพที่สุจริต เพื่อความสุขอย่างแท้จริง จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานในภายหลัง เพราะต้องติดคุกในฐานกระทำความผิดกฏหมายบ้านเมือง เงินที่หามาได้จากการกระทำความผิด ก็จะไม่ได้ใช้แม้แต่บาทเดียว 
                                           นายปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

พอเพียง

พอเพียง
           อยู่อย่างพอเพียง และมีความเพียงพอโลกทุกวันนี้ มีอะไรๆ มากเกินไป ในทางที่จะผูกพันชีวิตนี้ ให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจ ของสิ่งที่บีบคั้นเผาลน เผลอไปเพียงนิดเดียว ก็จักลื่นไถลลงไปในกองเพลิง ชนิด ที่ยากที่จะถอนตัวออกมาได้ และถึงกับตายอยู่ในกองเพลิงนั้นเป็นที่สุด เพราะ เหตุนั้นจึงเป็นการสมควรหรือจำเป็นสำหรับชีวิตทุกชีวิต ที่จะต้องแสวงหาทาง และมีทางของตนอันถูกต้องปลอดภัย เพื่อก้าวหน้าไปสู่ความสะอาดหมดจด สว่างไสว และสงบเย็น สมตามความปรารถนา ไม่เสียที ที่ได้เวียนมา ในเกลียว แห่งวัฎสงสาร จนกระทั่งมามีชีวิตในวันนี้ กะเขาด้วยชีวิตหนึ่งโลกทุกวันนี้ มากไปด้วยขวากหนามอันเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้นเพียงใด ชีวิตนี้ ก็ยิ่ง ต้องเพียบพร้อม ไปด้วยคุณธรรม และสมรรถภาพ อันจะเป็น เครื่องป้องกันและ แก้ไขอันตรายนั้นๆ มากขึ้นเพียงนั้น เพราะฉะนั้น อย่างน้อยที่สุด เขาจะต้องมี  หนทาง อันประกอบไปด้วย องค์แปดประการ ดังกล่าว ทางไปของชีวิต ในด้านจิต หรือวิญญาณ ของเขาผู้นั้น จึงจะก้าวไปด้วยดี คู่กันไปได้ กับการก้าวหน้า ในทาง วัตถุ หรือทางกาย ของโลกแห่งสมัยนี้ อันกำลังก้าวไป  อย่างมากมาย จนเกินพอดี หรือผิดส่วน ไม่สมประกอบ จนทำให้โลกระส่ำระสายเป็นประจำวันอยู่แล้วทางชีวิตแห่งสมัยนี้โลดโผน โยกโคลง ขรุขระ ขึ้นๆ ลงๆ ยิ่งกว่า สมัยเก่าก่อน  เกินกว่าที่จะ ดำเนินไปได้ง่ายๆ โดยการใช้วิธีการ ที่ง่ายๆ สั้นๆ เหมือนที่แล้วมา
        นับว่าเป็นโชคดีของพุทธบริษัท ที่เรามีพระพุทธศาสนาอันแสนประเสริฐ ของเรา  ซึ่งอาจจะอำนวยสิ่งต่างๆ อันเป็น องค์คุณ ๘ ประการนั้น ให้แก่เรา ได้อย่าง ครบถ้วน พุทธศาสนาของเรามีเหลี่ยมพรายอันสมบูรณ์ แล้วแต่เราจะเพ่งดูกัน ในเหลี่ยมไหน ก็มีให้ดู เป็นให้ได้ ครบทุกอย่าง ทุกเหลี่ยมพุทธศาสนา ในฐานะที่ เป็นทั้งศาสนา เป็นทั้งปรัชญา เป็นวิทยาศาสตร์ เป็นศิลปะ แห่งการครองชีวิต เป็นภูมิธรรม ที่พึงประสงค์ ของมนุษยชาติ เป็นความรู้ที่ ครบถ้วน เป็นสติปัญญา ที่คล่องแคล่ว และเป็นอนามัย ทั้งทางกาย และทางจิต เหล่านี้แต่ละเหลี่ยมๆ นั้น เอง นับเป็น องค์คุณ ครบทั้ง ๘ ประการ ที่รวมกันเข้า เป็นตัวทาง และเป็นการเดินทาง พร้อมกันไปในตัว ดังที่กล่าวแล้วข้าพเจ้าขอชักชวน เพื่อนร่วม การเกิดแก่เจ็บตาย ทั้งหลาย ให้สนใจ ในทางอันเอก อันเป็นทาง ดิ่งไปสู่ความสิ้นทุกข์ ของบุคคลผู้เดียว แต่ละคนๆ ทางนี้ ข้าพเจ้า  ขอชักชวน ให้พร้อมใจกัน ต่อสู้ โดยทุกวิถีทาง เพื่อให้ทางๆ นี้ยังคงเปิดเผย ปรากฏอยู่ เป็นทางเดินของสัตว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอชักชวน มิตรสหายทั้งหลาย  ให้สละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อป้องกันหนทาง อันนี้เอาไว้ ให้ยังคงอยู่เป็นทางรอด ของตน และของเพื่อนสัตว์ ทั้งหลาย ตลอดกาล อันไม่มีที่สิ้นสุด ในนามแห่ง พระพุทธองค์ ผู้ทรงประกาศความจริงสากลแก่มนุษย์ชาติทั้งมวล.

ทางเดิน จุดหมายปลายทาง


แบบนี้แหละที่เราเลือก

        ปลายทางที่เราต้องการเดิน คือ ความพอเพียงของการใช้ชีวิต ความพอดีของการมีชีวิตที่มีอยู่ จึงต้องปรับเปลี่ยนให้การดำเนินชีวิตที่มีแต่ความพอดี พอใจในสิ่งที่มีแล้วชีวีจะมีแต่ความสุขที่แท้จริงบนทางเดินชีวิตการรู้เป้าหมายปลายทางที่เราจะไปทำให้เราชัดเจนในหนทางเดินแต่หลายครั้งที่เราไม่รู้หรือไม่แน่ใจว่าเราจะเดินไปไหนไปทำไม เพื่ออะไรแต่เรายังคงเดินไปตามทางที่มีคนเรากำหนดไว้แล้วเป็นทางเดินที่ใครใครก็เดินไปกันบางทีเราก็ไม่ได้ถามตัวเองด้วยซ้ำว่าทำไมเราจึงเดินไปทางนี้ระหว่างเดินทางบางทีเราก็สับสนว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาบางทีก็มีทางสองแพร่ง แล้วเราจะเลือกเดินไปทางไหนบางทีเราก็เดินกลับมาอยู่ที่เดิม วนเวียนอยู่อย่างนั้นบางทีทางนั้นก็เริ่มแคบตีบตันหรือถ้าแย่หน่อยก็พบทางตันจนบางทีเราก็ลังเลว่าจะเลี้ยวกลับดีไหม
      หากเรายังไม่แน่ใจว่าจะเดินไปทางไหนเราหยุดเดินได้ไหมกลับมาทบทวนตนเองว่าเป้าหมายชีวิตที่แท้จริงของเราคืออะไรแล้วทางที่เรากำลังเดินอยู่นี้กำลังพาเราไปยังจุดหมายปลายทางที่ว่าไหมหากใช่เราค่อยเดินทางต่อหากไม่ใช่ก็ยังมีเวลาเลี้ยวกลับได้แม้ทางที่เราเลือกเดินนี้อาจไม่ใช่ทางที่ใครใครเขาเลือกเดินแต่หากเป็นความมุ่งหมายที่แท้จริงของเราเราก็จะเดินไปอย่างมีความสุขแน่นอนว่าการเดินทางไปสู่เป้าหมายคงไม่อาจถึงได้ภายในวันสองวันรือปีสองปีแต่ระหว่างทางเดินนั้นมีความงดงามรายรอบทางเดินอยู่เสมอมีดอกหญ้าเล็กเล็กเบ่งบานชูช่อปลิวไสวหากเราไม่มัวแต่มองหาดอกไม้ใหญ่ที่ใครใครบอกว่าสวยงามมีจุดพักให้เราได้คลายเหนื่อยเพียงแต่เราเดินช้าช้าดื่มด่ำกับสุนทรียภาพข้างถนนหาความสุขเล็กเล็กระหว่างทางเดินและพึงพอใจกับการเดินทางของเราเราก็จะเป็นสุขเป็นความสุขเล็กเล็กกับการเดินทางการเดินทางที่มีเป้าหมายเป้าหมายสู่อิสรภาพในตัวตนที่แท้จริง

สุดสายตา

สุดสายตา
        ทางเดิน บางคนสามารถเลือกเดินได้ แต่สำหรับใครหลายๆคนนั้นไม่อาจเลือกหรือกำหนดได้เลย จำใจเดินด้วยความลำบาก ก้มหน้าเดินไปแม้ว่าจะไม่รู้จุดหมายปลายทางบ้างเลยก็ตาม แต่จำใจที่ต้องเดิน เดินไป เดินต่อไป เดินไปให้ไกล เดินไปให้สุดเส้นทาง แม้ว่าจะไม่พบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้างเลยก็ตามที
       ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน น่าจะนำมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม กับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน หนทางที่เดินมาอันแสนยาวไกล ทำให้เรี่ยวแรงลดน้อยถอยลง แม้ว่าเรี่ยวแรงและกำลังวังชาของเราจะไม่เหมือนแต่ก่อน แต่ประสบการณ์ของเรานั้นมีสะสมมากพอสมควร
      ความพยายามอีก พยายามก้าวไปอีก ไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง จุดหมายแห่งความสำเร็จ ที่ยังอยู่อีกไม่ไกล หรือใกล้ ซึ่งเรานั้นไม่อาจล่วงรู้ได้ บางสิ่งบางอย่างที่เราสามารถทำได้ ต้องทำให้สำเร็จ อย่ารอคอย ทำให้เต็มพลังในความสามารถที่มีอยู่  ความสำเร็จต้องอยู่แค่เอื้อมแน่นอน

นายปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เพชร เพชร เพชร

เพชรอยู่ที่ไหนก็เลอค่า
         เพชร ของล้ำค่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อย่างไร ก็เป็นเพชรวันยังค่ำ ดังคำกล่าวที่ว่า “คนไทยเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน และเจ้าสำบัดสำนวน” หมายความว่า คนไทยเป็นคนที่ชอบคำคล้องจอง และชอบพูดเปรียบเปรยให้เห็นภาพที่สามารถแสดงความรู้สึกหรือสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้อย่างชัดเจน ภาษาไทยจึงร่ำรวยไปด้วย สำนวน ภาษิต และคำพังเพย มากมายตามความหมายของพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช 2525 
        ภาษิต หมายถึง ตามศัพท์ที่เป็นคำกลางๆ ใช้ทั้งทางดี ทางชั่ว แต่โดยความหมายแล้วประสงค์คำกล่าวที่ถือว่าเป็นคติ” และ คำพังเพย มีความหมายว่าหมายถึง “คำกลางที่กล่าวไว้ให้ตีความเข้าเรื่อง”ทั้ง สำนวน ภาษิต และคำพังเพย มักจะใช้รวมๆ ในการเปรียบเปรย ชี้ให้เห็นเหตุการณ์ หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น บางครั้งเป็นการสอนให้รู้ถึงสิ่งที่ควรทำ   และคำพังเพย มีอยู่ไม่น้อยที่เกี่ยวข้องกับ “อัญมณี” ซึ่งในสมัยโบราณนั้น คำที่ใช้เรียกอัญมณีมีเพียงไม่กี่ประเภทคือ เพชร พลอย หยก และ แก้ว เป็นต้น
      ดังนั้น สำนวนทั้งหลายจึงเกี่ยวข้องกับชื่อเหล่านี้สำนวนเกี่ยวกับ เพชร อาทิ “เพชรน้ำเอก” หรือเพชรน้ำหนึ่ง หมายถึง เป็นวิเศษ ยอดเยี่ยม ใช้สำหรับการยกย่องเชิดชูบุคคลหรือผลงานที่มีค่ามาก  ”เพชรร้าว” หมายถึง ไม่บริสุทธิ์ มีตำหนิ  “เพชรตัดเพชร” หมายถึง คนสองคนที่มีความสามารถสูง เก่งกาจทัดเทียมกัน ต้องมาแข่งขันกัน ก็ยากที่จะเอาชนะกันได้   “ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร” เป็นคำอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาวให้อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า มีความสุขบริบูรณ์ด้วยทรัพย์ ยศและความดี , “ขี้เถ้ากลบเพชร” หมายถึง ตอนแรกทำได้ดี แต่ต่อมามีข้อบกพร่องทำให้เสียหาย , “เพชรในตม” หมายถึง สิ่งที่มีคุณค่าหรือคนที่ดีมีความสามารถสูงแต่ไปอยู่ในแหล่งที่ไม่ดีการเปรียบเปรยเหล่านี้ ทำให้การสรุปความคิดมีความชัดเจน เมื่อเกิดอะไรขึ้น ก็สามารถอธิบายได้ด้วยสำนวนภาษาที่ทุกคนสามารถเข้าใจตรงกันได้ แม้ว่าบางสำนวน อาจไม่คุ้นหู หรือไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่การพยายามทำความเข้าใจกับความหมายเหล่านี้ ลองเอามาใช้ในชีวิตประจำวันดู ก็นับเป็นการเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการใช้ภาษาไทย และยังเป็นการซึบซับคติสอนใจซึ่งเป็นคุณค่าความดีงามจากอดีตสู่ปัจจุบัน

ทางเดินเล็กๆ แต่พบสันติสุข

ความสำเร็จ
          ความสำเร็จที่เกิดจากความพยายามของเรานั้น กว่า่จะได้มา กว่าจะมาถึงตรงจุดนี้ได้ เราต้องเดินทางผ่านความทรหดและต้องใช้ความอดทนมากมาย พบเจออุปสรรคนานับประการตลอดเส้นทาง ขวากหนามแหลมคม ที่ทิ่มแทงเป็นบาดแผล (นั้นคือความผิดพลาด) แต่ความพยายามไม่เคยสูญสิ้นไปจากใจที่เข้มแข็งของเรา ความผิดพลาดนั้นนำมาเป็นประสบการณ์ และเป็นสิ่งเตือนใจให้เข้มแข็ง เป็นแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นสู้ต่อไป ชีวิตนี้ต้องสู้ สู้ให้ถึงที่สุด เพราะว่าต้นทุนชีวิตของเรานั้นมีน้อยกว่าคนอื่นๆ จึงต้องมีความอดทนให้มากกว่าคนอื่นๆ
        พยามยามอีก อย่าหยุด อย่ายอม ก้าวเดินไปด้วยใจที่มุ่งมั่น และให้คิดในใจเสมอว่า วันนี้ไม่ใช่วันของเรา และวันของเรานั้นจะมีหรือไม่ก็ตาม อย่านำมาเป็นข้อคิดในใจ เดินไป ก้าวไป ก้าวเดินด้วยความระมัดระวังและมีความรอบคอบมากที่สุด มองให้ออกว่าเส้นทางที่เราเดินนั้นเหมาะสมกับการเดินทางหรือไม่ ต้องเดินอีกไกลมากน้อยเพียงใด จึงพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
         เส้นทางเล็กๆที่เราเลือกเดินนั้น เป็นเส้นทาง "สันติสุข" มีผู้คนไม่ชอบเดินสักเท่าไร เพราะการเดินทางไม่เรียบง่าย มีหลุม มีบ่อ  พลาดเมื่อไร เป็นอันจบกัน

ธนบัตร ของสะสมที่ชอบมากที่สุด

ธนบัตร
        การสะสมในสิ่งใดๆก็ตาม ถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข สนุกในการทำ จะทำให้เรานั้นมีแรงจูงใจในการเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่ชอบ สิ่งที่เราทำไม่ได้ทำให้ใครๆต้องมาเดือดร้อนในสิ่งที่เราทำ ก็ไม่จำเป็นต้องไปแคร์ความรู้สึกใคร ใครชอบอะไร ใครไม่ชอบอะไรนั้น ไม่สามารถไปบังคับจิตใจใครให้มาชอบเหมือนกับเราได้ ขึ้นอยู่ที่ว่า คน คนนั้นจะมีใจที่ชอบเหมือนๆกัน ก็จะทำให้การสะสม การพูดคุย และการคุยกันนั้นได้อรรถรสมากยิ่งขึ้นด้วย
        การสะสมธนบัตร นอกจากจะได้สัมผัสกับ การเงินที่ได้ชำระหนี้ได้ตามกฏหมายแล้ว ยังได้รู้ถึงอดีตที่ผ่านมา บนภาพในธนบัตรที่มีแตกต่างกันไป ซึ่งในแต่ละภาพนั้นมีความหมาย ที่ย้อนให้เห็นอดีตในแต่ละช่วงของเวลาที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดียิ่ง

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ของเก่า

ของเก่าที่ชอบ
        การสะสมของที่ชอบและมีความสุขทางใจ ในการเก็บสะสม เก็บไว้ และเก็บรักษาไว้อย่างดี เพื่อความสุขทางใจของหลายๆคน เก็บไว้แล้วเพิ่มมูลค่าในภายหลังอย่างมากมายมหาศาล เป็นสิ่งของที่เรานั้นหาดูได้ยาก เผื่ออนุชนรุ่นหลังๆได้มีโอกาสเชยชมในความงดงามล้ำค่า
        ของเก่าที่มีมูลค่าทั้งทางจิตใจและมีความสำคัญอย่างมากในการศึกษาค้นคว้า ในความเป็นมาและมีที่มาอย่างไร ของเก่าที่มีอายุยืนยาวหลายๆร้อยปี ย่อมมีที่มาที่ไป การที่เรานั้นต้องการสะสมของเก่าต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ หาข้อมูลอย่างถ่องแท้
        ของเก่าที่เราชอบสะสม เป็นการเก็บรักษาเอาไว้ เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจ เป็นข้อคิดให้กับตัวเราเอง เป็นการกระตุ้นให้ตัวเองมีความรักษ์ รักษ์ไว้ให้มีความคงอยู่ต่อไปให้กับอนุชนรุ่นหลังต่อไป เก็บรักษาไว้เพื่อการศึกษาและเรียนรู้ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่มีบนธนบัตรเพื่อค้นหาข้อมูลที่แท้จริง

วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ร้านโชติช่วง

ร้านโชติช่วง ยินดีต้อนรับทุกท่าน
      
    เชิญครับ แวะมากันนะครับ ด้วยความประทับใจในทุกๆโอกาส แวะมาทักทายกันได้นะครับ มาเยี่ยมชมกันก่อนไม่ซื้อไม่หาไม่ได้ว่าอะไร สนใจอันไหน ชอบอันไหนบอกได้ครับ หยิบมาชม หยิบมาส่องก่อนได้ สัมผัสของก่อนว่าของเราจริงแท้แน่นอน
    มาก่อนครับ จะได้สัมผัสบรรยากาศภายในร้านของเรา ความเป็นกันเอง และยินดีจัดหาของที่ท่านต้องการตามความพอใจ บริการประทับใจ



ใส่ใจในทุกๆรายละเอียด ร้านเราเปิดให้บริการในทุกๆวันไม่เว้นวันหยุดนะครับขอให้มา เรายินดี ท่านไม่มาเราคิดถึง

วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

พ้นทุกข์

พ้นทุกข์
              มนุษย์ทั้งหลายล้วนแสวงหาหนทางแห่งการพ้นทุกข์ หรือไม่ก็พยายามแสวงหาความสุขด้วยความไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นคนในพุทธศาสนาและบุคคลในศาสนาอื่นๆ ไม่มีใครอยากอยู่กับทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเพียงขณะสั้นๆ ก็ตาม แต่กลับไม่มีใครเลยที่สามารถจะพบทางพ้นทุกข์อย่างแท้จริงได้เลย ข้อปฏิบัติที่จะเดินทางไปสู่ที่สุดแห่งทุกข์นั้น มีมหาบุรุษผู้สั่งสมบารมีมาอย่างมากมาย
             พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทรงตรัสรู้อริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ดังนั้น มรรคจึงต้องมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการพ้นทุกข์ของบุคคล เพราะหากไม่มีมรรค มนุษย์จะหาทางออกจากทุกข์ไม่ได้เลย ตอนนี้ท่านทั้งหลายอาจจะยังไม่เชื่อ อ่านไปให้จบ ทำความเข้าใจ แล้วน้อมนำไปปฏิบัติ แล้วท่านจะพบว่าทุกข์จะลดลงโดยลำดับ ทุกวันนี้ที่ทุกคนแก้ทุกข์กันอยู่นั้น ก็ทำได้แต่กลบเกลื่อนไปวันๆ เสมือนการกวาดขี้ฝุ่นไปไว้ใต้พรมเท่านั้นเอง ทุกคนพูดกันได้เพียง คนดี ความดี คนชั่ว ความชั่ว การมีศีลมีธรรมล้วนทำให้คนเป็นคนดีทุกศาสนา แต่ท่านตอบคำถามได้เองว่า การเป็นคนดีนั้นพ้นทุกข์ไหมเมื่อพลัดพรากไม่ว่าสิ่งรักหรือคนรัก คนดีดีแน่ๆ ไม่ใช่ไม่ดี แต่ไม่พ้นทุกข์ ทำได้อย่างมากก็อดทน ระทมขมขื่นซ่อนไว้ภายใน จิตใจ
           การที่เราพ้นทุกข์ได้นั้นอยู่ที่จิตใจ ร่างกายที่แข็งแกร่ง มีสติตลอดเวลา ใจที่มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใดๆทั้งสิ้น ใจสำคัญที่สุด และทุกอย่างนั้นย่อมสำเร็จลุล่วงทุกประการ
 
นายปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี

อยู่กับธรรมชาติ

อยู่กับธรรมชาติ
       ชีวิตเราสมัยก่อนอยู่อย่างเรียบง่ายมีชีวิตอยู่กับธรรมชาติ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่เบียดเบียนใครอยู่อย่างสงบร่มเย็นใช้ชีวิตแบบปกติสุข มนุษย์จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน มีอิทธิพลกับธรรมชาติ มีการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงทำให้การดำรงชีวิตกับธรรมชาติมีความสมดุลกัน และอยู่อย่างไม่อดอยากอยู่อย่างพอเพียง อยู่กับสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ
หากเรามองในแง่มุมของโลก มนุษย์ก็เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นตัวการที่สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อม สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นล้วนทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น  สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมานั้นเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก แต่มนุษย์เราก็ขาดธรรมชาติไม่ได้ เพราะธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
    แต่ในปัจจุบันชีวิตเราอยู่ในยุคเทคโนโลยี ที่มีแต่เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย และต้องทำมาหากิน โดยการประกอบอาชีพต่างๆมากมาย ดังนั้นการประกอบอาชีพถือเป็นปัจจัยหนึ่งในการดำรงชีวิต แต่เราสามารถเลือกอาชีพที่อยู่กับธรรมชาติได้โดยการปลูกต้นไม้ ผลไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเด็ก สตรี คนชรา หรือจะทำอาชีพใดก็ตามทุกคนสามารถเข้าถึงธรรมชาติ และการใช้ชีวิตตามธรรมชาติได้     ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับมนุษย์สร้างขึ้นสิ่งนั้นแหละคือธรรมชาติ  ถ้าทุกคนสามารถอยู่กับธรรมชาติและใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติได้ เราทุกคนจะรู้จักคำว่าพออยู่ พอกิน พอใช้ พอเพียง และทุกคนก็จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข สามัคคีกันในชุมชน และหมู่คณะ หากเพื่อนๆ เข้าใจถึงธรรมชาติได้ 
    ทำให้อยู่อย่างเป็นสุขได้และไม่เกิดปัญหาให้กับผู้อื่น สิ่งที่ทุกคนขาดไม่ได้คือการอยู่อย่างพอเพียง ความสุขนั้นก็จะตามมา เราไม่จำเป็นต้องดิ้นรนหาสิ่งที่เกินความจำเป็น แต่หากเราดำเนินชีวิตต่อไปได้ เราก็จะอยู่อย่างไม่ทุกข์ร้อนทางออกที่ดีที่สุดของมวลมนุษยชาติ ก็คือ การกลับไปสู่ธรรมชาติให้มากที่สุด การมีชีวิตอย่างเรียบง่ายจะทำให้ได้รับความสุขที่แท้จริง แห่งชีวิต และสุขภาพจะแข็งแรงปราศจากโรคเรื้อรังทั้งหลาย ไม่ว่า มะเร็ง โรคหัวใจ โรคกระดูก โรคภูมิแพ้ ความดันสูง ไขมันสูง เบาหวาน โรคอ้วน โรคซึมเศร้า โรคสมองเสื่อม เป็นต้น
 
                                                    ปราโมทย์ โชติช่วง ณ ราชบุรี